วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เทคนิคชาร์จมือถือระหว่างน้ำท่วม

เมื่อเกิดภัยน้ำท่วมหลายพื้นที่จะถูกตัดกระแสไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะไม่สามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวกได้ตามปกติแล้ว ยังขาดแหล่งชาร์จไฟให้มือถือซึ่งเป็นอุปกรณ์สื่อสารประจำกายที่อาจจะช่วยชีวิตได้ยามฉุกเฉินหรือร้องขอความช่วยเหลือได้
      
       ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เสนอทางแก้ปัญหาแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยนำแบตเตอรี 12 โวลต์มาประยุกต์เป็นเครื่องชาร์จมือถือ ขั้นตอนง่ายๆ มีดังนี้
      
       เตรียมอุปกรณ์          




1.แบตเตอรี่ 12 โวลท์ จากรถยนต์



 2.อินเวอร์เตอร์แปลงแรงดันจาก 12 โวลท์ดีซี (Volt DC) เป็น 220 โวลท์เอซี (Volt AC) ขนาดของอิน
เวอร์เตอร์ในท้องตลาดมีตั้งแต่ขนาด 80 วัตต์ จนถึง 1000 วัตต์ ส่วนสายไฟสำหรับต่อกับแบตเตอรี่มักจะให้มากับอินเวอร์เตอร์ ส่วนรูปนี้เป็นขนาด 1000 วัตต์



 3.สายปลั๊กต่อพ่วงเพื่อให้สามารถเสียบเครื่องชาร์จโทรศัพท์มือถือได้หลายเครื่องพร้อมกัน ทั้งนี้ เนคเทคเตือนว่าหากสายต่อพ่วงไม่มีคุณภาพ คือเสียบปลั๊กแล้วไม่แน่น หลวม ติดๆ ดับๆ อาจทำให้ทั้งเครื่องชาร์จและอินเวอร์เตอร์เสียหายได้
      
       การต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน




 1.ต่อสายแบตเตอรี่สีแดงเข้าที่ขั้วบวก (+) และสายสีดาเข้าที่ขั้วลบ (-) ของทั้งฝั่งอินเวอร์เตอร์และแบตเตอรี่ดังรูป ตรวจสอบขั้วและสีสายให้ดี ถ้าต่อผิดหรือสลับขั้วอาจทำให้อินเวอร์เตอร์เสียหายถาวรได้ ควรต่อให้แน่น เพราะขณะอินเวอร์เตอร์จ่ายกระแสจะมีกระแสผ่านขั้วต่อต่างๆ สูง ถ้าต่อไม่แน่นจะทำให้ขั้วต่อร้อนจัด และทำความเสียหายได้





2.เมื่อต่อสายเสร็จแล้วตรวจสอบการทำงานของอินเวอร์เตอร์ โดยการเปิดสวิชท์ที่อินเวอร์เตอร์ อินเวอร์เตอร์ส่วนใหญ่จะมีไฟบอกสถานะการทางาน ไฟจะติดสว่าง



3.เสียบสายปลักต่อพ่วงแล้วต่อเครื่องชาร์จโทรศัพท์มือถือตามต้องการตามรูปด้านบน
      
       ทั้งนี้ แบตเตอรีขนาด 12 โวลท์ 60 แอมแปร์-ชั่วโมง สามารถประจุแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือได้ประมาณ 100 เครื่องอย่างต่อเนื่อง (ไม่ใช่สามารถชาร์จพร้อมกัน 100 เครื่อง) ซึ่งหากคำนวณประสิทธิภาพพลังงานจะพบว่าประสิทธิภาพต่ำมาก แต่ถือว่ายอมรับได้ในยามคับขัน นอกจากนี้หากไม่มีการประจุแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือ ไม่ควรเสียบเครื่องชาร์จทิ้งไว้ในขณะที่อินเวอร์เตอร์เปิดอยู่ เพราะแม้ไม่มีการชาร์จโทรศัพท์ แต่เครื่องชาร์จยังกินพลังงานจากแบตเตอรี่ผ่านอินเวอร์เตอร์ และหากไม่มีอะไรเสียบปลั๊ก 220 โวลท์ของอินเวอร์เตอร์ก็ควรปิดอินเวอร์เตอร์ เพราะแม้อินเวอร์เตอร์ไม่จ่ายพลังงานแต่อินเวอร์เตอร์เองก็ใช้พลังงานส่วนหนึ่งจากแบตเตอรี ซึ่งถ้าเปิดทิ้งไว้แบตเตอรีจะหมดไปโดยเปล่าประโยชน์
      
       *ข้อมูลจาก http://www.nstda.or.th/index.php/thai-flood
      
       สำหรับผู้สนใจสถานการณ์น้ำท่วม ติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://www.thaifloodwatch.net

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น