วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ฝนตกรองเท้าเปียกทำไงดี พรุ่งนี้ต้องใสอีก


หน้าฝนแล้วปัญหาส่วนใหญ่คือฝนตกทำให้เสื้อผ้า รองเท้าเปียกชื้น แล้วรองเท้าของเราพรุ่งนี้ต้องใส่ต่อจะทำอย่างไรดี ปัญหาง่ายๆที่บางฅนมีคำตอบ บางฅนไม่มี วิธีง่ายที่สุดคือเมื่อรองเท้าเปียกน้ำ ให้หากระดาษหนังสือพิมพ์เอามายัดในรองเท้าที่เปียก แล้วเอารองท้าไปคว่ำเอาส่วนพื้นขึ้น ("อย่าเอาพื้นลงเป็นเด็ดขาด มันจะละลายแล้วความร้อนจะเข้าไปในรองเท้าไม่ได้ จริงๆนะ จะบอกให้")แล้วเอาไปไว้ในห้องเครื่องรถยนต์ บริเวญใก้ลๆกันกับ หม้อน้ำ แล้วปิดฝากระโปรง รถยนต์(ไม่ต้องปิดแน่นนะ เอาแค่งับไว้เฉยๆ) ประมาณ 15 นาทีมาดูว่าหนังสือพิมพ์ที่ยัดไว้มันเปียกมากไปหรือไม่ ถ้าเปียกให้เปลี่ยนใหม่ คราวนี้ทิ้งเอาไว้เลย ประมาณ ครึ่งชัวโมง มันจะแห้งแต่ถ้าไม่แห้ง แนะนำเอามันไปตากที่บริเวณ เครื่องปรับอากาศตัวนอกอาคาร ที่มันเป่าลมร้อนออกมา มันช่วยได้จริงๆ ไม่เกิน 1 ชั่งโมงแห้งสนิท
ส่วนเสื้อถ้าเปียกแล้วจะต้องใสต่อแนะนำให้เอาไปไว้ บริเวณเครื่องปรับอากาศตัวนอก หาอะไรยึดหน่อยเดียวปลิว ไม่เกิน 1 ชั่วโมงแห้งสนิท เอามารีดได้เลย แต่มีเคล็ดรับนิดนึง คือเวลาตากกรุณาเอาด้านหน้า เข้าหาพัดลมเครื่องปรับอากาศนะ ถ้าเอาด้านหนังแห้งช้า

ลองดูนะ ชาวGangof4wd ทำให้ลูกประจำ ไว้คราวหน้าจะมา สอนวิธีซักชุดนุ่งน้อย หม่น้อยแบบเร่งด่วน กรณีไปเที่ยวแล้วอยู่ในโรงแรมหรืออยู่บ้านก็ได้
วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วิธีป้องกันและกำจัดมดหรือแมลงต่างๆภายในบ้าน

การ กำจัดมดหรือแมลงต่างๆที่สร้างความรำคาญให้แก่คนภายในบ้าน เป็นปัญหาที่มีผู้สอบถามเข้ามาอยู่บ่อยครั้ง จึงรวบรวมวิธีการป้องกันและกำจัดมดหรือแมลงอย่างง่ายๆ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์และสิ่งแวดล้อมมาฝากกัน

*วิธีป้องกันและกำจัดมด
# หาเศษผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาตัดเป็นชิ้น ๆ ชุบกับน้ำมันเครื่องพอหมาดหรือจาระบีแล้วนำมาพันรอบขาตู้หรือโต๊ะ หรือใช้ปูนขาวใส่ภาชนะรองที่ขาตู้ก็ได้ แต่หากพบมดไต่ขึ้นมาตามรอยแตกร้าวของคอนกรีต ให้ใช้น้ำมันก๊าดเทลงไปในร่อง มดก็จะไม่โผล่หน้าขึ้นมาให้เรารำคาญใจอีกนาน
# ใช้แป้งฝุ่นสำหรับทาป้องกันเห็บหมัดของสุนัขหรือแมวโรยตามพื้นหรือบริเวณที่ มดขึ้น เมื่อมดเดินผ่านก็จะเกิดการระคายเคืองและตายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ถ้าไม่อยากฆ่าสัตว์ก็ให้ใช้แป้งฝุ่นธรรมดาแทน หรือฝานมะนาวเป็นแผ่นบาง ๆ มาวางในบริเวณที่มดขึ้นก็ได้
# ในกรณีที่พบรังมด ให้ใช้น้ำที่แช่หน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดองเปรี้ยวราดไปที่รัง มดจะอพยพไปอยู่ที่อื่นทันที แต่ถ้าต้องการกำจัดให้สิ้นซากให้ใช้การบูรและยาสูบอย่างละ 1 ส่วน นำไปแช่น้ำตั้งไฟให้เดือด จากนั้นเอาไปราดที่รัง มดก็จะตายและไม่กลับมาทำรังอีก

*วิธีกำจัดแมลงสาบ
# นำขวดแก้วที่มีปากค่อนข้างกว้างใส่น้ำแกงจืดหรือน้ำต้มยำที่เหลือจากการรับ ประทานอาหาร (ใส่ประมาณครึ่งขวด) แล้วนำไปวางไว้บริเวณซอกหรือมุมห้องภายในบ้าน โดยวางให้ชิดติดกับผนังเพื่อล่อให้แมลงสาบที่ไต่ตามฝาผนังลงมากินน้ำแกงใน ขวด ทำให้ไม่สามารถปีนกลับขึ้นมาได้
# ใช้เหยื่อล่อแมลงสาบสำเร็จรูป ซึ่งบรรจุอยู่ในตลับที่มีช่องว่างเพื่อให้แมลงสาบมุดหัวเข้าไปกินเหยื่อ แล้วออกมาตายภายนอก (ไม่ตายค้างอยู่ด้านในตลับ) โดยนำไปวางไว้ในบริเวณที่มีแมลงสาบชอบเดินผ่าน อาทิ ตามซอกมุมอับต่างๆ หรือวางไว้ใกล้ท่อระบายน้ำทิ้ง เพื่อดักแมลงสาบที่ออกมาหากินยามค่ำคืน
# ใช้บ้านแมลงสาบ ซึ่งเป็นกาวดักแมลงสาบที่ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยง มีประสิทธิภาพในการดักจับแมลงสาบได้ดี ใช้ง่ายเพียงแค่แกะกล่องกระดาษแล้วนำแผ่นเหยื่อไปวางไว้ตรงกลางแผ่นกาวและ พับเป็นรูปบ้าน นำไปวางไว้ตามห้องหรือซอกมุมที่มีแมลงสาบรบกวน เมื่อมีแมลงสาบมาติดจนเต็ม ให้พับบ้านแมลงสาบเข้าทุกด้าน แล้วนำไปทิ้งลงถังขยะ บ้านแมลงสาบมีอายุการใช้งานนานประมาณ 3-4 สัปดาห์

*วิธีกำจัดแมลงวัน
# ใช้น้ำเชื่อมหรือน้ำหวานเข้มข้น 3 ส่วน ผสมกับพริกไทยป่น 1 ส่วน นำไปตั้งไว้ในบริเวณที่มีแมลงวันชุกชุม หากแมลงวันแวะเข้ามากินน้ำเชื่อมแล้ว ก็จะตายแบบหวานเย็นในเวลาไม่นานนัก
# นอกจากกาวดักแมลงวันที่คุ้นเคยกันดีแล้ว ขอแนะนำโคมดักแมลงวันเพื่อใช้ดักจับแมลงวันและแมลงต่างๆที่สร้างความรำคาญ และเป็นพาหะนำโรคมาสู่มนุษย์และสัตว์เลี้ยง โดยอาศัยเหยื่อล่อหรือเศษอาหาร อาทิ ผลไม้สุกและอาหารทะเลที่มีกลิ่นค่อนข้างแร ง เพื่อดึงดูดแมลงเข้าไปติดกับ และไม่สามารถบินหนีออกมาได้

5 วิธีกำจัดคราบสกปรก

1. พื้นซีเมนต์ไม่เงางาม พื้นซีเมนต์ที่ขัดเท่าไรก็ยังไม่เงางามสะใจ ลองใช้ผ้าขาวบางห่อกากมะพร้าวที่เหลือจากการคั้นกะทิ แล้วนำมาถู พื้นก็จะเงางามขึ้นทันตา หรือถ้าพื้นซีเมนต์เปื้อนน้ำมันเหนียวเหนอะ สามารถขจัดคราบได้ด้วยการนำขี้เถ้ามาโรยบริเวณที่เปื้อนน้ำมัน ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่า แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกที ปล่อยไว้ให้แห้งสนิท พื้นก็จะสะอาดไม่เหนียวอีกต่อไป

2. ผ้าม่านสีหมอง ผ้าม่านและผ้าบุโซฟาแรกใช้ก็สวยดีหรอก แต่ใช้ไปสักพักสีผ้าก็เริ่มหม่นหมอง วิธีแก้ไขถ้าเป็นผ้าม่านให้ซักด้วยน้ำเย็น จากนั้นนำไปตากผึ่งลมให้แห้งในที่ที่แดดไม่จัด หากอยากให้ผ้าเรียบเนี้ยบให้รีดด้วยไฟอ่อนๆ การรีดด้วยไฟแรงจะทำให้ผ้ากรอบและหมองเร็ว ส่วนคราบสกปรกบนผ้าบุโซฟาให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำผสมผงซักฟอกเช็ดเบาๆบนรอยสกปรก จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดอีกครั้ง แล้วใช้เครื่องเป่าผมเป่าจนแห้งสนิท

3. พรมสวยดำปี๋ พรมแสนสวยราคาแพง แต่เดินย่ำไม่กี่ทีก็ดำปี๋ดูไม่จืดเสียแล้ว เห็นทีต้องทำความสะอาด แต่ก่อนจะดูดฝุ่นควรโรยเกลือบนพรมจะช่วยให้ดูดฝุ่นได้ง่ายขึ้น ส่วนคราบไขมันไม่น่ามอง ให้ใช้เกลือผสมกับแอลกอฮอล์ในอัตราส่วน 1:4 เช็ดตามแนวพรม ระวังอย่าเช็ดย้อนทางเพราะจะทำให้พรมเสียรูปได้

4. กระทะไฟฟ้าแห้งกรัง หม้อไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า เตาอบ เป็นเครื่องครัวประจำบ้านที่ใช้กันทุกวี่วัน เมื่อเกิดคราบสกปรกต้องรีบกำจัด เช่น เตาอบที่มีคราบอาหารเกาะหนึบ ให้ใช้น้ำผสมน้ำยาล้างจานเช็ดคราบเหนียวก่อน แล้วใช้น้ำมันจักรเช็ดเพื่อให้ความเงางามยังคงอยู่ ตามด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดจนเตาอบสะอาดดี ส่วนหม้อไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า ใช้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่ร้อน เช็ดทั้งภายนอกและภายใน ห้ามใช้ฝอยขัดหม้อเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดรอยได้ ส่วนหม้อต้มกาแฟที่ทำจากเงินหรือสเตนเลสอย่างดี ให้ใช้เบกกิ้งโซดาซึ่งจะไม่ทำปฏิกิริยากับวัสดุ ผสมน้ำเช็ดถูเบาๆก็พอ จะช่วยทำให้รสชาติของกาแฟไม่ผิดเพี้ยนด้วย

5. ตู้เย็นเหม็นจริงๆ ปัญหากลิ่นและคราบอาหารติดตู้เย็นเป็นของคู่กัน เพราะมีคราบสกปรกจึงมีกลิ่น แนะนำให้กำจัดคราบสกปรกด้วยการบีบยาสีฟันลงไปก่อน จากนั้นก็ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดถูจนหมดคราบ ถ้ามีคราบเหนียวให้หยดน้ำมันพืชลงบนกระดาษทิชชู แล้วถูให้สะอาด ก็จะช่วยให้ตู้เย็นเงางามขึ้นด้วย ส่วนเรื่องการลดกลิ่นเหม็นให้หาถ่านหุงข้าวหรือใส่เบกกิ้งโซดาในถุงที่เปิด ปากถุงทิ้งไว้นำไปวางไว้ในตู้เย็นก็จะช่วยได้ อย่างไรก็ตามถ้าความสกปรกเข้าขั้นวิกฤต คงต้องล้างทำความสะอาดตู้เย็นครั้งใหญ่แล้วละ โดยให้ล้างด้วยน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดา แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้ง และเปิดตู้ทิ้งไว้จนแห้งสนิทดี จึงใช้งานต่อได้ แค่คิดก็ร้องยี้แล้ว เมื่อกลิ่นอาหารบูดส่งกลิ่นมาตามท่อระบายน้ำของอ่าง ล้างจาน ให้เทเบคกิ้งโซดา 1 ถ้วย ลงไปในท่อ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นตามด้วยน้ำส้มสายชูอีก 1 ถ้วย แค่นี้กลิ่นก็จะค่อยๆจางหายไปแล้ว
วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552

D.I.Y.หมอนสุขภาพ จากหลอดกาแฟ

เพื่อนๆท่านใดเคยปวด คอเวลาตื่นนอนเนื่องจากหมอนที่หนุน ไม่ได้รองรับกระต้นคอทำให้การนอนเป็นการนอนที่ผิดวิธี บ้างครังหมอนนิ่ม เกินไป บางครั้งแข็งเกินไป วันนี้เรามีวิธีที่จะให้ให้ท่านจะไม่ต้ิองปวดคอจากกการนอนอีกแล้ว ด้วยหมอนหลอดกาแฟ เป็นผลงานวิฉัยจาก นาซ่า หรือใครซ่าก็ไม่รู้ๆแต่ว่าใช้ได้ดีราคาไม่แพง ทำเองได้ไว้แจก แฟน,ญาติ,พี่น้อง รวมไปถึงคุณพ่อตา แม่ยายทีกำลังจากเกลียด ขี้หน้าท่าน แถมยังไม่มีไรฝุ่น เข้ามารบกวนสำหรับฅนเป็นโรค ภูมิแพ้ หรือแพ้ภูมิ เออ.. มันเกี่ยวกันหรือป่าว เพราะคุณสมบัติพิเศษของหลอดกาแฟ คือมันยืดหยุ่นได้ หลอดกาแฟเมื่อมันรวมตัวกันมากๆ จะกลายเป็นช่องว่างอากาศอย่างดี เมื่อถูกกดทับ จะยุบตัว และไม่มีการพองกลับในทันใด เวลาเรานอนแล้วขยับ จะรู้เลยว่ามันพอดีกับต้นคอ คล้ายๆกับการปั้มป์กุญแจบนก้อนดินน้ำมันมันจะทิ้งร่องรอยกระดูกไว้ แถมไม่มีใยนุ่น เป็นที่อาศัยของไรฝุ่น เอาเริ่มช่วยกันดีกว่้า


วัสดุ อุปกรณ์ สร้าง
1.ของสำคํญปลอกหมอนเปล่าๆที่ไม่มีนุ่น หาแบบสีสันหน่อยหรือจะจ้างร้านเย็บก็ได้ แต่ข้อสำคัญมันต้องมีซิปนะจ๊ะเพื่อเอาไว้ปรับเปลี่ยนขนาด
2.หลอดกาแฟ จากแม็คโค (โฆษณาฟรีเลย) ยกห่อกันเลย แต่ข้อสำคัญอย่าง....มากๆๆอย่าเอาแบบใสๆนะเพราะ มันนุ่มนิ่มเกินไปเอาแบบ หลายสีสรร เวิอรค์ เอามันมาตัด ตัด ตัด ประมาณ 1 เซ็น จะใช้มีด กรรไกร ปืน ก็ตามแต่เถอะ พ่อเจ้าประคุณ ให้มันได้ 1 เซ็นเป็นพอ

ดูรูปเลย


เอา เอา แบบนี้นะ



แล้วเอามันยัดเข้าไป แบบนี้



ยัดมันเข้าไป เออนิ้วบวมเลย



ฮีนี้ ใบใหญ๋นะจ๊ะ... นายจ๋า



ได้อีกนะจ๊ะ ใบเล็กหน่อย


มั่วเองนะ