Labels
- ช่วยจากธรรมชาติ (3)
- ช่วยทำมือ (2)
- ช่วยในครัว (7)
- ช่วยในป่า (4)
- ช่วยในเมือง (22)
วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ที่รดน้ำต้นไม้ ลดโลกร้อน
18:37 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
มาแล้วขอรับ...... วิธีที่จะช่วยโลกของเรา แถมช่วยลดขยะอีกต่างหาก อีกวิธี วันนี้กระผมขอเสนอ วิธีทำที่รดน้ำต้นไม้ ลดโลกร้อน สิ่งแรกที่ก็คือ กระป๋องน้ำมันเครื่องเก่าๆ สวนมากท่านที่มีรถยนต์คงจะมีกระป๋องน้ำมันเครื่อง ที่เหลือจากการถ่ายน้ำมัน ขนาด 4 ลิตรขึ้นไป อย่าให้ถึงขนาดถัง 200 ลิตรนะขอรับ กระป๋องแป้งโรยตัว อันนี้คงมีแน่ๆ คราวนี้เรามาดูกันว่าจะทำอย่างไร
วัสดุอุปกรณ์
1. กระป๋องน้ำมันเครื่อง
2. กระป๋องแป้ง
3. ตะปูแหลมเอาไว้เจาะ
วิธีทำ
ป้ายกำกับ:
ช่วยจากธรรมชาติ
|
0
ความคิดเห็น
วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ขวดหยดน้ำ
18:07 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
นี่ก็ใก้ลปีใหม่อีกแล้วนะอขรับ หลายๆท่านคงเตรียมตัวที่จะไปส่งท้ายปีใหม่กันตามสถานที่ท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด หรือไปเยี่ยม เยียนญาติ ผู้หลัก ผู้ใหญ่ หรือกลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อหาครอบครัวกัน แต่ปัญหาที่เจอคือ................ ต้นไม้แสนรักของท่านทั้งหลายที่ปลูกไว้ที่บ้าน คอนโด หรือที่ใดๆ ใครจะเป็นคนรดน้ำ ไม่อยู่ตั้งหลายวัน แต่เดี๋ยวก่อน เรามีวิธีแก้ไขนะขอรับ ด้วยขวดหยดน้ำ ที่จะช่วยให้ท่าน ไม่ต้องมากังวลเรื่อการรดน้ำอีกต่อไป
คราวนี้ลองตามมาอ่านวิธีทำกันนะขอรับว่าเราต้องเตรียมอะไรกันบ้าง
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมนะขอรับ
๑. ขวดน้ำขนาด ๑.๕ ลิตร หรือมากกว่าก็ได้
๒. ลวดขนาดกลาง
๓. สายน้ำเกลือ (ขอจากโรงพยาบาล แบบกระผม) หรือซื้อจากร้านขายยา ไม่เกิน ๒๕ บาท
๔. คีม
๕. เข็ฒใหญๆ หน่อย
วิธีทำ ตามรูปเลยขอรับ
ป้ายกำกับ:
ช่วยจากธรรมชาติ
|
0
ความคิดเห็น
วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
เทคนิคการทอดไข่ดาวให้ดูฟองใหญ่น่ากิน
08:37 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
เริ่มจากต่อยไข่ใส่ถ้วย แล้วใช้นิ้วมือบี้ไข่ขาวรอบ ๆ ไข่แดงให้ทั่ว ระวังอย่าให้ไข่แดงแตก
จากนั้นเทไข่จากถ้วยลงในกระทะที่น้ำมันมากและร้อนจัด ไข่ขาวจะพองและขยายตัวมากกว่าปกติดูน่ากินกว่าการทอดธรรมดาอยากรู้จริงไม่จริง ต้องพิสูจน์!
ป้ายกำกับ:
ช่วยในครัว
|
0
ความคิดเห็น
วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553
เทคนิคชาร์จมือถือระหว่างน้ำท่วม
09:29 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
เมื่อเกิดภัยน้ำท่วมหลายพื้นที่จะถูกตัดกระแสไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะไม่สามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวกได้ตามปกติแล้ว ยังขาดแหล่งชาร์จไฟให้มือถือซึ่งเป็นอุปกรณ์สื่อสารประจำกายที่อาจจะช่วยชีวิตได้ยามฉุกเฉินหรือร้องขอความช่วยเหลือได้
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เสนอทางแก้ปัญหาแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยนำแบตเตอรี 12 โวลต์มาประยุกต์เป็นเครื่องชาร์จมือถือ ขั้นตอนง่ายๆ มีดังนี้
1.แบตเตอรี่ 12 โวลท์ จากรถยนต์
2.อินเวอร์เตอร์แปลงแรงดันจาก 12 โวลท์ดีซี (Volt DC) เป็น 220 โวลท์เอซี (Volt AC) ขนาดของอิน
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เสนอทางแก้ปัญหาแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยนำแบตเตอรี 12 โวลต์มาประยุกต์เป็นเครื่องชาร์จมือถือ ขั้นตอนง่ายๆ มีดังนี้
เตรียมอุปกรณ์
ป้ายกำกับ:
ช่วยจากธรรมชาติ
|
0
ความคิดเห็น
วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ก่อนทิ้งของลองมาอ่าน ทางนี้
11:02 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
ก่อนทิ้งขยะอลงตามมาอ่าน บทความนี้ก่อนขอรับ เพราะบางทีของบางอย่าง มันมิได้ใช้ได้เฉพาะที่มันเป็นอยู่ แต่เราสามารถ นำมาประยุกต์ใช้งานทางด้านอื่นนะขอรับลองมาดูกัน
แกนในของ Toilet Paper
เก็บปลั๊กต่อ (extension cord) เรียบร้อย
ด้วยแกนในของกระดาษ
ป้ายกำกับ:
ช่วยในเมือง
|
0
ความคิดเห็น
วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553
การถนอมดอกจำปีไว้ใช้งานให้ยาวนาน ด้วยการดอง
20:19 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
ป้ายกำกับ:
ช่วยทำมือ
|
0
ความคิดเห็น
วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553
เทคนิคการทำเปลไม้ไผ่ (เรือเปล)
09:51 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
ป้ายกำกับ:
ช่วยทำมือ
|
0
ความคิดเห็น
วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2553
วิธีอุ่นข้าวเย็นที่เหลือค้างไว้ไม่ให้เหม็นบูด
20:43 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
เอาปัญหามาแก้ให้ขอรับ หน้าร้อนอย่างนี้ข้าวสวยที่หุงไว้ตอนเช้า กลับมาตอนเย็นอาจจะบูดเสียได้ มาดูวิธีแก้ไขกันดีกว่าขอรับ
ปัญหาใน การทำ ครัวมีหลายอย่าง และปัญหาการที่เราหุงข้าวแล้วทานไม่หมดก็เป็นอีกหนึ่ง ปัญหาเพราะเวลาเหลือข้าวไว้แล้วเวลาอุ่นข้าวเย็นมักมีกลิ่นคล้ายบูด ซึ่งทำ ให้ไม่น่ารับประทานเอาเสียเลย
ปัญหาใน การทำ ครัวมีหลายอย่าง และปัญหาการที่เราหุงข้าวแล้วทานไม่หมดก็เป็นอีกหนึ่ง ปัญหาเพราะเวลาเหลือข้าวไว้แล้วเวลาอุ่นข้าวเย็นมักมีกลิ่นคล้ายบูด ซึ่งทำ ให้ไม่น่ารับประทานเอาเสียเลย
ป้ายกำกับ:
ช่วยในครัว
|
0
ความคิดเห็น
วิธีหุงข้าวมันกะทิ
20:42 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
หน้าร้อนเข้ามาแล้ว นะขอรับ วันนี้เลยเอาวิธีหุ่งข้าวมัน มาฝากกันไว้รับประทานคู่กับ ส้มตำไทย กับปลาสลิดทอดนะขอรับ
ข้าวมันกะทิ เป็น อาหารคาวที่นิยมรับประทานกับส้มตำ ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านพื้นเมืองของคนภาค ตะวันออก เช่น ระยอง จันทบุรีและตราด เป็นการคิดสูตรอาหารเพื่อให้มีความกลม กล่อมในการรับประทาน โดยการนำน้ำกะทิมาใช้หุงข้าวแทนการใช้น้ำเปล่า เพิ่มรส ชาติที่แตกต่างและอร่อยหอม หวานนิดและมันนิดหน่อย
ข้าวมันกะทิ เป็น อาหารคาวที่นิยมรับประทานกับส้มตำ ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านพื้นเมืองของคนภาค ตะวันออก เช่น ระยอง จันทบุรีและตราด เป็นการคิดสูตรอาหารเพื่อให้มีความกลม กล่อมในการรับประทาน โดยการนำน้ำกะทิมาใช้หุงข้าวแทนการใช้น้ำเปล่า เพิ่มรส ชาติที่แตกต่างและอร่อยหอม หวานนิดและมันนิดหน่อย
ป้ายกำกับ:
ช่วยในครัว
|
0
ความคิดเห็น
ใช้พริกแห้งไล่แมลงวัน
20:42 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
เวลาตากของ แห้งไว้ จะมีแมลงวันมาตอม ให้เอาพริกแห้ง 5 - 6 เม็ด เสียบไว้รอบกระด้ง ไอร้อนของพริก จะทำให้แมลงวันไม่กล้าเข้าใกล้
ป้ายกำกับ:
ช่วยในครัว
|
0
ความคิดเห็น
การใช้ใบตำลึงแก้ผดผื่นคัน
20:41 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
อาการคันเกิดได้ หลายสาเหตุ แต่เท่าที่ทางมูลนิธิสุขภาพไทยได้เก็บข้อมูลมา ตุ่มคันจากน้ำ เสีย คันจากยุงกัด คันจากละอองข้าวสาร คันลมพิษ คันจากหอยคัน หรือผดผื่นคัน จากอากาศร้อน ใช้ใบตำลึงสยบได้หมด
ป้ายกำกับ:
ช่วยในป่า
|
0
ความคิดเห็น
วิธีกำจัดแมลงสาบด้วยวิธีธรรมชาติ
20:39 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
แมลงสาบ ซึ่งโดย ทั่วไป แมลงสาบ มักจะชอบอาศัยอยู่ตามบ้านเรือน ท่อระบายน้ำ ร้านขายของ ชำ ร้านอาหาร ห้องครัว และชอบอาศัยอยู่ในบริเวณที่มืด อบอุ่น และมีความชื้น สูง ซึ่งมักจะสร้างความรำคาญให้กับเจ้าของสถานที่หรือบ้านเรือนเป็นอย่าง มาก วันนี้จึงมีวิธีการกำจัดแมลงสาบด้วยธรรมชาติมาฝากกัน
วัตถุ ดิบ
วัตถุ ดิบ
ป้ายกำกับ:
ช่วยในครัว
|
0
ความคิดเห็น
วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553
เทคนิคการต้มน้ำซุปเนื้อให้ใสน่าทาน
09:35 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
(1)เทคนิคการต้มน้ำซุปเนื้อให้ใสน่าทานให้นำ เนื้อไปต้มน้ำร้อนเสียก่อน
(2)จากนั้นตักออกให้สะเด็ดน้ำนำไปต้มในหม้อน้ำซุปอย่าคนพยายามตักฟอง ออก
คุณทับทิม รุ่งโรจน์ไพศาล สมาชิกทางด่วนข้อมูลการเกษตร *1677 สอบถาม เรื่องการต้มซุปเนื้อ เนื่องจากประสบปัญหาเวลาต้มซุปแล้วน้ำไม่ใส มีไขมัน ลอยบนผิวน้ำซุป ทำให้ดูไม่น่ารับประทานจึงสอบถามเข้ามาผ่านศูนย์บริการ เจ้า หน้าที่ได้สอบถามไปยังคุณอุษา สกุลนิมิต เจ้าของร้านข้าวแกงผู้ใหญ่แดง ซึ่ง มีเทคนิคในการต้มซุปให้น้ำใสดังนี้
วิธีการต้มซุปเนื้อต่างๆให้มีน้ำใสน่ารับประทาน
(2)จากนั้นตักออกให้สะเด็ดน้ำนำไปต้มในหม้อน้ำซุปอย่าคนพยายามตักฟอง ออก
คุณทับทิม รุ่งโรจน์ไพศาล สมาชิกทางด่วนข้อมูลการเกษตร *1677 สอบถาม เรื่องการต้มซุปเนื้อ เนื่องจากประสบปัญหาเวลาต้มซุปแล้วน้ำไม่ใส มีไขมัน ลอยบนผิวน้ำซุป ทำให้ดูไม่น่ารับประทานจึงสอบถามเข้ามาผ่านศูนย์บริการ เจ้า หน้าที่ได้สอบถามไปยังคุณอุษา สกุลนิมิต เจ้าของร้านข้าวแกงผู้ใหญ่แดง ซึ่ง มีเทคนิคในการต้มซุปให้น้ำใสดังนี้
วิธีการต้มซุปเนื้อต่างๆให้มีน้ำใสน่ารับประทาน
ป้ายกำกับ:
ช่วยในครัว
|
0
ความคิดเห็น
การต้มโจ๊กไม่ให้คืนตัวเร็ว
09:33 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
หลายท่าน ประสบปัญหาเกี่ยวกับการต้มโจ๊ก คือ เมื่อต้มไปแล้วลักษณะของโจ๊กจะเหลวไม่ น่ารับประทาน คุณเฉลา ที่ได้ทำการจำหน่ายโจ๊กซึ่งเป็นอาหารเช้าที่ หลายๆ ท่านชื่นชอบ มานานกว่า 5 ปี ได้แนะนำเคล็ดลับในการต้มโจ๊กให้เหนียว ข้นไม่คืนตัว น่ารับประทาน สำหรับท่านที่สนใจจะนำไปทำรับประทานในครัวเรือน หรือจะเปิดร้านจำหน่ายโจ๊ก คุณเฉลาได้บอกถึงวิธีการต้มและเคล็ดลับดังนี้
ส่วนผสม-อุปกรณ์ที่ต้องใช้ :
ส่วนผสม-อุปกรณ์ที่ต้องใช้ :
ป้ายกำกับ:
ช่วยในครัว
|
0
ความคิดเห็น
วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553
วิธีเก็บมะนาวไว้ใช้นาน ๆ
17:39 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
หน้าแล้งมาแล้วนะขอรับ วันนี้ชาวgang จะมาแนะนำการเก็บมะนาวไว้ใช้ได้นานๆ มีกรรมวิธีทำไม่ยาก นะขอรับลองอ่านกัน
วันนี้เรามาเรียน รู้เคล็ดลับวิธีการเก็บมะนาวให้อยู่ได้นานๆ กันเพราะเวลาหน้าแล้งที ไร มะนาวแห้งไม่มีน้ำ แถมยังลูกหนึ่งแสนแพง แต่ถ้าเมื่อไรที่อยู่ในหน้า มะนาว หรือช่วงไหนได้มะนาว เป็นของฝากมาเยอะจนกินกันไม่ทัน ดื่มก็ไม่ทัน ก็ เน่าเสีย จะเสียของเปล่า ๆ เราต้องนึกถึงวันหรือช่วงที่มะนาวแพงๆ ไว้ วันนี้เราจึงมีวีธีการเก็บรักษาไว้ทานได้นาน ๆ |
วิธีที่ 1 ชุบไขเพื่อไม่ให้เน่า โดยใช้ไขที่เป็นก้อนสีขาว ตั้งไฟพอละลายแล้วใช้มะนาวที่ล้างสะอาดแล้ว จุ่มเคลือบ วิธีนี้จะเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน วิธีที่ 2 ปอกเปลือกคั้นน้ำใส่ถุงพลาสติก หรือขวดแช่แข็ง เมื่อจะใช้ก็นำออกมาปล่อยให้ละลาย ความเปรี้ยวและกลิ่นยังเหมือนเดิม อีกวิธีหนึ่งคือ เมื่อคั้นน้ำแล้วผสมน้ำเชื่อม เกลือเล็กน้อยเก็บไว้เป็นส่วนๆ (คือ 1 ถุง ต่อ 1 แก้ว) เมื่อจะกินก็นำมาปั่นเป็นเครื่องดื่มแก้กระหายได้ดี วิธีที่ 3 เอาทรายใส่กระป๋องพลาสติก หรือโอ่งดินเผาเล็ก ๆ ทรายทั้งทรายละเอียด และหยาบก็ใช้ได้หมดนะขอรับ เอาน้ำพรมให้ทรายชุ่มน้ำ แล้วนำผลมะนาวสด มาหมกไว้ในทรายหาที่ตั้งร่มๆ ก็เป็นอีกวิธีที่จะทำให้มะนาว หรือหมากนาวจะอยู่กับเราได้นานๆ นะขอรับ โอกาสหน้าถ้าเจอ อะไรดีๆหรือนึกอะไรได้จะมาสอนช่วยตัวเอง ในวิธีอื่นๆต่อไปนะขอรับ |
ป้ายกำกับ:
ช่วยในเมือง
|
0
ความคิดเห็น
วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ฝรั่งช่วยดับกลิ่น
18:44 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
ใบ ฝรั่งมีฤทธิ์ต่อระบบทางเดินอาหาร ลดการบีบรัดตัวของลำไส้ เพราะมีสารแทนนิ น จัดเป็นยาสมาน รักษาอาการท้องร่วงเฉียบพลันได้ดี ซึ่งเห็นนัก เภสัชศาสตร์ มักนำยอดอ่อนของฝรั่ง ปิ้งไฟต้มน้ำดื่ม หรือใช้ใบ ฝรั่ง 10-15 ใบ บดผสมน้ำ 1 แก้ว กรองแล้วต้ม 3 นาที เหยาะเกลือ ดื่มแก้ปวด ท้อง และ ยังสามารถดับกลิ่นปาก ดับกลิ่นลมหายใจเหม็นไดด้วย
ในใบฝรั่งมีสาร quercetetin มีฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์สาร postaglandin ใช้รักษาโรคอหิวาตกโรค
ต่อประสาท มีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีนป้องกันโรคลักปิดลักเปิด มีวิตมินซีมากต้านเชือแบคที่เรียและไวรัส
ดังนั้น ใบฝรั่งจึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางยา เช่น แก้ท้องร่วง ล้างแผลสด แก้เหงือกบวม พิษเรื้อรัง ดูดหนองฝี รักษาโรคตามผิวหนัง แก้แพ้ยุง ดับกลิ่นปาก กลิ่นสุรา ผสมปรุงกลิ่นเครื่องสำอาง และน้ำยาบ้วนปาก
ปัจจุบันมียาสำเร็จรูปจากใบฝรั่ง ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษเรียก กวาว่ แคปซูล บรรจุแคปซูลละ 250 มิลลิกรัม รับประทาน 3-5 เม็ดทุก 6 ชั่วโมง แก้อาการท้องเสีย
ประโยชน์ทางโภชนาการ เป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยวิตามินซี โดยเฉพาะในผลสุกแต่ไม่นิยมรับประทานเพราะมีกลิ่นฉุน ผลสุกจึงถูกนำมาแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ผสมด้วยน้ำสมุนไพรสำเร็จรูปหลายชนิด ส่วนน้ำฝรั่งที่ซื้อตามร้านอาหาร จะเป็นสีเขียวสวยงาม นั่นเป็นเพราะเจือสี ทางที่ดีทำเองก็ได้ง่ายๆ โดยนำฝรั่งสุก มาล้างให้สะอาด นำมาบดและเติมน้ำเพื่อสะดวกแก่การคั้นน้ำระหว่างบดควรเหยาะเกลือนิดหน่อย เนื่องจากเกลือจะช่วยป้องกันการเกิดยางสีดำจากผลฝรั่ง จากนั้นกรองกากทิ้งจะได้น้ำฝรั่ง ผสมน้ำเชื่อจะได้น้ำฝรั่งสดถูกหลักอนามัย เก็บในภาชนะเคือบหรือภาชนะแก้ว ปิด ฝาให้สนิท แช่ในตู้เย็น อยู่ได้นาน 5-7 วัน ไม่ควรใช้ภาชนะเหล็ก เพราะเหล็กจะทำปฏิกริยาทำให้ละลายสารในผลฝรั่ง ได้น้ำสีเขียวจนดำเป็นอันตรายต่อร่างกาย
ถ้ามีกลิ่นสาบสางจากซากหนู ที่ตายเหม็นเน่าตามซอกหลืบต่างๆ ให้รีบหาฝรั่งสุก 2-3 ลูก วางทิ้งไว้ในรัศมีของกลิ่นเหม็นโชย จะพบว่ากลิ่นไม่พึงประสงค์นั้นจะค่อยๆหายไป
ที่มา
http://www.learningthai.com/comprehension/7534.htm
ป้ายกำกับ:
ช่วยในเมือง
|
0
ความคิดเห็น
วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
วิธีการย่างปลาดุกให้เก็บไว้ได้นานกรอบอร่อย
08:13 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
ลองกันดูนะขอรับ เห็นว่าเป็นวิธีการถนอมอาหารบ้านเรา เมืองฝรั่งเขายังมีปลา แซลมอนรมควัน เราเอาแบบของเรานะขอรับ การย่างมีเคล็บลับอีกอย่างขอรับ ใช้กาบมะพร้าวเป็นเชื้อเพลิง นะขอรับหอมจริงๆ และอีกอย่างจะสุขเร็ว และไล่ยุงได้ในตัวนะขอรับลองดู
วิธีการทำ
1.นำปลาดุกมาทำการเอาไส้ออก ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย
2. นำปลาดุกที่ได้ไปผึ่งแดด ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง เพื่อทำให้ปลาแห้ง เวลานำไปย่าง จะทำให้ได้เนื้อปลาที่กรอบนอกนุ่มใน น่ารับประทาน
3. จากนั้นก็นำไปย่างไฟอ่อนๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
4. เมื่อย่างเสร็จเรียบร้อย นำมาวางไว้ให้เย็น เก็บใส่ถุงพลาสติกห้ามให้อากาศเข้าได้ สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 1 ปี
*** วิธีดังกล่าว เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะยืดระยะเวลาการถนอมอาหารให้ได้นานขึ้น การนำปลาดุกไปตากแดดก่อนนั้น จะทำให้ตัวปลาแห้ง และเวลาย่าง จะทำให้หนังปลาดุกไม่ไหม้ ออกมาสวย น่ารับประทาน และสามารถเก็บไว้ได้นานกว่าปกติ จากเดิมปลาดุกย่าง สามารถเก็บได้ไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งถ้าย่างตามสูตรดังกล่าว สามารถเก็บปลาดุกไว้รับประทานได้ถึง 1 ปี
ที่มา : ศูนย์ทางด่วนข้อมูลการเกษตร * 1677
สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.สระบุรี ( idf 4213 )
วิธีการทำ
1.นำปลาดุกมาทำการเอาไส้ออก ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย
2. นำปลาดุกที่ได้ไปผึ่งแดด ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง เพื่อทำให้ปลาแห้ง เวลานำไปย่าง จะทำให้ได้เนื้อปลาที่กรอบนอกนุ่มใน น่ารับประทาน
3. จากนั้นก็นำไปย่างไฟอ่อนๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
4. เมื่อย่างเสร็จเรียบร้อย นำมาวางไว้ให้เย็น เก็บใส่ถุงพลาสติกห้ามให้อากาศเข้าได้ สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 1 ปี
*** วิธีดังกล่าว เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะยืดระยะเวลาการถนอมอาหารให้ได้นานขึ้น การนำปลาดุกไปตากแดดก่อนนั้น จะทำให้ตัวปลาแห้ง และเวลาย่าง จะทำให้หนังปลาดุกไม่ไหม้ ออกมาสวย น่ารับประทาน และสามารถเก็บไว้ได้นานกว่าปกติ จากเดิมปลาดุกย่าง สามารถเก็บได้ไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งถ้าย่างตามสูตรดังกล่าว สามารถเก็บปลาดุกไว้รับประทานได้ถึง 1 ปี
ที่มา : ศูนย์ทางด่วนข้อมูลการเกษตร * 1677
สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.สระบุรี ( idf 4213 )
ป้ายกำกับ:
ช่วยในเมือง
|
0
ความคิดเห็น
วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
สมุนไพรรักษาอาการผด ผื่น คัน
17:35 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
พลู
พลูที่เรายังคงหาซื้อได้ตามท้องตลาดนี้ นอกจากนำมาทำอาหารได้รสชาติแล้ว การนำใบสดๆ 3 - 4 ใบมาตำแล้วคั้นน้ำผสมเหล้าโรง ก็สามารถช่วยลดอาการได้ดี
ขมิ้นชัน
เป็นอีกสมุนไพรที่ดีต่อการรักษาโรคผิวหนัง โดยนำเหง้าสดล้างให้สะอาด ตำให้เกิดน้ำแล้วนำมาทาผิว ไพล คล้ายกับขมิ้นชัน นั่นคือนำเหง้าไปบดให้ผงแล้วนำไปผสมน้ำก่อนทาผิว หรือใช้เหง้าสดล้างให้สะอาด ฝนกับน้ำแล้วทาผิว
ฟ้าทะลายโจร สามารถนำใบสดมาตำ แล้วคั้นเอาน้ำมาทาบริเวณที่มีอาการผื่นคัน หรือใช้ลำต้นต้มกับน้ำมันมะพร้าวจนเปื่อย แล้วกรองเอาเฉพาะน้ำยามาทา
ตำลึง
นอกจากการเป็นอาหารรสอร่อย ตำลึงสดๆ ยังสามารถเอาไปตำให้ละเอียด คั้นแล้วผสมน้ำเล็กน้อยก็เอามาทาบริเวณที่มีอาการได้
วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
วิธีดับกลิ่นคาวลูกชิ้นปลา
07:20 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
ใคร ที่ชอบรับประทานลูกชิ้นปลา ควรรีบหันมาฟังทางนี้โดยด่วน เพราะว่าคุณอาจจะ เคยเจอกับปัญหาแบบนี้ นั่นคือ เวลาที่ซื้อลูกชิ้นปลามาแล้ว ลูกชิ้นปลากลับ มีกลิ่นคาวแรงจนไม่น่ารับประทาน ทำให้ต้องทิ้งไปบ้าง แต่วันนี้เรามีวิธีใน การกำจัดกลิ่นคาวอันรุนแรงในลูกชิ้นปลามาฝากกัน
วิธีการง่าย ๆ ที่ว่าก็คือ ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชูในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วนำลูกชิ้นปลาลงแช่ไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง แล้วนำขึ้นมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง เพียงเท่านี้ กลิ่นคาวที่มากับลูกชิ้นปลาก็จะหมดไป นำไปประกอบอาหารก็ไม่มีกลิ่นมากวนใจ และไม่ทำให้อาหารเสียรสชาติอีกด้วย...
แหล่งข้อมูล : คู่มือคู่ครัว
ที่มา : ศูนย์ทางด่วนข้อมูลการเกษตร * 1677
สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.สระบุรี
ป้ายกำกับ:
ช่วยในเมือง
|
0
ความคิดเห็น
เทคนิคการหุงข้าวหอมนิลให้นุ่ม-อร่อย
07:16 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
ข้าว เจ้าหอมนิลเป็นข้าวที่ได้รับการคัดเลือกและพัฒนาจนได้ข้าวที่มีเมล็ด ข้าวกล้องเรียวยาว สีม่วงเข้ม ข้าวกล้องเมื่อหุงสุกจะนุ่ม เหนียว หอม ข้าว สารหุงสุกมีสีม่วงอ่อน นุ่ม และมีกลิ่นหอมเช่นกัน คุณสมบัติที่สำคัญของข้าว เจ้าหอมนิลคือ ข้าวกล้องมีโปรตีนสูงถึง 12.5 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณคาร์โบ ไฮเดรต 70 เปอร์เซ็นต์ และยังประกอบไปด้วยธาตุเหล็ก สังกะสี ทอง แดง แคลเซียม และโพแทสเซียม ซึ่งสูงกว่าข้าวขาวดอกมะลิ นอกจากนี้ลักษณะดี เด่นของข้าวเจ้าหอมมะลิที่พบนอกจากคุณค่าทางโภชนาการได้แก่ ทรงต้นเตี้ย แตก กอดี เมล็ดมีน้ำหนักดี อายุสั้นเพียง 90 วัน ทำให้สามารถปลูกได้ถึง 3 ครั้ง ต่อปี ดังนั้นหากได้รับการจัดการที่เหมาะสมในการผลิตต่อปีสูงกว่าข้าวพันธุ์ อื่น ๆ ข้าวหอมนิลนั้นหลายๆคนคงจะนิยมชมชอบในรสชาด แต่เวลาหุงข้าวหอมนิล รับประทานทีไรมักจะไม่นุ่ม วันนี้คุณประไพ ชิดไพโรจน์ ได้นำเกร็ดความรู้มี วิธีการหุงข้าวหอมนิลมาฝากผู้ที่สนใจ
สำหรับการวิธีหุงข้าวหอมนิลนั้น คือ อัตราส่วนในการหุงจะต้องใช้ข้าวหอมนิล 1 ส่วน ต่อน้ำ 3 ส่วน เริ่มต้นจาก ล้างข้าวหอมนิลให้สะอาด 2 รอบ จากนั้นก็แช่ข้าวหอมนิลไว้ในน้ำทิ้งไว้อีกประมาณ 30 นาที จึงจะนำไปหุงได้ หรือ อาจใช้วิธีใส่ข้าวขาวขัดผสมลงไปในอัตราส่วน ข้าวหอมนิล 1 ส่วน ข้าวขาวขัด 1 ส่วน ต่อน้ำ 4 ส่วน ทั้ง 2 วิธีนี้จะทำให้ข้าวหอมนิลนั้นนุ่มน่ารับประทานมากขึ้น ใครที่ยังรับประทานข้าวหอมนิลแข็งๆอยู่ก็อย่าลืมนำวิธีนี้ไปใช้ได้
ที่มา : ศูนย์ทางด่วนข้อมูลการเกษตร * 1677
สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.สระบุรี ( idf 4282 )
ป้ายกำกับ:
ช่วยในเมือง
|
0
ความคิดเห็น
วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2553
วิธีไล่จิ้กจกตุ๊กแกในบ้าน
18:56 |
เขียนโดย
Gang of 4wd |
แก้ไขบทความ
ท่านทั้งหลายเคยกลัว จิ้งจก ตุ๊กแก กันหรือเปล่าขอรับ รับรองได้เลยว่ามีแน่นอน 98% เป็นอย่างน้้อยที่กลัวคราวนี้เรามาหาวิธีป้องกัน ขับไล่โดยเชิญอาจารย์คง มาทำพิธีไล่ กันเลย จะดีไหม ...เฮ้ย!!! ไม่ใช่ผีนะขอรับแต่เรามีเคล็ดลับดีๆ มาบอกกล่าวสำหรับท่านที่ไม่อยากจะเจอนะขอรับ พอดีไปเจอกรรมวิธีที่ รักบ้านเกิดเลยเก็บมาฝากกัน เริ่มเลยนะ
วิธีไล่ตุ๊กแก,จิ้งจกสำหรับบ้านไหนที่ไม่ชอบใช้ใบสาบเสือ1ส่วน
ใบน้อยหน่า1ส่วนตำรวมกันห่อผ้าแขวนบริเวณที่มีการอาศัยอยู่
ในกรณีที่ คุณสงกรานต์ อนุรักษ์ ได้สอบถามผ่านบริการทางด่วนข้อมูล การเกษตรกร *1677 ร่วมด้วยช่วยกันจังหวัดเชียงรายเกี่ยวกับการไล่จิ้งจกและ ตุ๊กแกที่มีอยู่ในบ้านเป็นจำนวนมาก โดยที่คุณสงกรานต์ ก็ไม่อยากฆ่าทิ้งและ ไม่ต้องการใช้สารเคมีในการกำจัด ทางรายการจึงได้ประสานไปยังแม่จันทรา สลี สองสม ประธานกลุ่มสมุนไพรบ้านร่องปลายนา แม่จันทราได้แนะนำสูตรไล่ จิ้งจก ตุ๊กแก โดยการใช้สมุนไพร ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้ได้ผลแน่นอน ไม่ต้อง ฆ่าและไม่ต้องใช้สารเคมีอีกด้วย มีวัตถุดิบและวิธีการทำดังนี้
สูตรไล่จิ้งจก ตุ๊กแก
1.ใบสาบเสือ 1 ส่วน
2.ใบน้อยหน่า 1 ส่วน
วิธีทำ
-นำใบสาบเสือและใบน้อยหน่าอย่างละเท่าๆกัน พอประมาณหรือตามที่จำเป็นต้องใช้
-ให้นำใบสาบเสือและใบน้อยหน่าที่ได้ มาตำหรือสับเป็นชิ้นๆ ผสมให้เข้ากันเพื่อให้ได้กลิ่นสาบจากวัตถุดิบดังกล่าวออกมา
-จากนั้นนำใบสาบเสือและใบน้อยหน่าที่ตำผสมเข้ากันแล้วมาห่อผ้าด้วยผ้าที่มี อากาศระบายเพื่อให้กลิ่นเหม็นสาบออกมา และสะดวกในการนำไปใช้
การนำไปใช้
-นำไปวางหรือแขวนไว้ในบริเวณที่มีจิ้งจกและตุ๊กแกอาศัยอยู่ จิ้งจกและตุ๊กแกก็จะไม่มาอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นอีก
ที่มา : ศูนย์ทางด่วนข้อมูลการเกษตร * 1677
สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.เชียงราย (ids : 25661 )
ป้ายกำกับ:
ช่วยในเมือง
|
0
ความคิดเห็น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)